วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ซอฟต์แวร์ประยุกต์

1.ความหมายของซอฟต์แวร์ประยุกต์
ตอบ เป็นซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมซึ่งเขียนขึ้นเพื่อการทำงานเฉพาะอย่างที่เราต้องการ การทำงานร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์

2.อธิบายความแตกต่างระหว่างซอฟต์ประยุกต์ทั่วไปกับซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพาะงาน
ตอบ เป็นซอฟต์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อนำไปใช้ประยุกต์กับงานทั่วไป

3.ยกตัวอย่างซอฟต์แวร์ประยุกต์ทั่วไป โดยระบุ ประเภท/ชื่อ/และประโยชน์ใช้งาน
ตอบ-ซอฟต์แวร์ประมวลผลคำ(word processing software) เป็นซอฟต์แวร์ทีใข้ในการจัดทำเอกสารทุกชนิด
-ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน(spreadsheet software)ใช้ในการคำนวณ วิเคราะตัวเลข
-ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล(database management software)ใช้เก็บข้อมูลและจัดเก็บข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์
-ซอฟต์แวร์นำเสนอ(presentation software)ใช้นำเสนอข้อมูลด้วยระบบคอมพิวเตอร์
-ซอฟต์แวร์ทางด้านกราฟิกและมัลติมีเดีย(graphics and multimedia)สำหรับจัดการงานทางด้านกราฟิกและมัลติมีเดีย

4.นักเรียนรู้จัก หรือเคยใช้ซอฟต์แวร์ใดบ้างตามที่ระบุในข้อ3. และเคยใช้ทำอะไร ตอบให้มากที่สุด
ตอบ-ซอฟต์แวร์ประมวลผลคำ ใช้ในการจัดทำเอกสารทุกชนิด
-ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน ใช้ในการคำนวณ วิเคราะตัวเลข
-ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล ใช้เก็บข้อมูลและจัดเก็บข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์
-ซอฟต์แวร์นำเสนอ ใช้นำเสนอข้อมูลด้วยระบบคอมพิวเตอร์
-ซอฟต์แวร์ทางด้านกราฟิกและมัลติมีเดีย สำหรับจัดการงานทางด้านกราฟิกและมัลติมีเดีย
-ซอฟต์แวร์การใช้งานบนเว็บไซต์และการติดต่อสื่อสาร ใช้ตรวจเช็ดอีเมล เข้าเว็บไซต์ การจัดการและดูแลเว็บส่งข้อความตัวอย่าง
-ซอฟต์แวร์สำหรับงานธุรกิจ มักจะใช้ในงานทั่วไป แต่อาจนำมาประยุกต์ใช้ในแต่ละงาน


วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ตอบคำถามต่อไปนี้

1.โปรแกรมแปลภาษาคือ
ตอบ เป็นซอฟต์แวร์หรือชุดคำสั่งที่ทำหน้าที่แปล Source Program
ให้เป็น Object Program


2.โปรแกรมแปลภาษาทำหน้าที่
ตอบ   จากภาษาระดับต่ำและภาษาระดับสูงเป็นภาษา
ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่สามารถรับรู้ได้ จำเป็นต้องมีชุดคำสั่งที่ใช้เป็นตัวแปลภาษา
ให้เป็นภาษาเครื่องเสียก่อน


3.โปรแกรมแปลภาษาแบ่งเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง
ตอบ    2 ประเภท 1.ตัวแปลภาษาระดับสูง 2.ตัวแปลภาษาระดับต่ำ

4.ตัวแปลภาษาระดับต่ำ ทำหน้าที่
ตอบ     ลักษณะของภาษานี้ได้ใช้ตัว อักษรแทนชุดคำสั่งของเลขฐานสองในภาษาเครื่อง จึงจำเป็นต้องมีชุดคำสั่งที่ใช้แปลภาษาระดับต่ำ ให้เป็นภาษาเครื่อง ซึ่งชุดคำสั่งที่ใช้แปลภาษาระดับต่ำนี้

5.แอสแซมเบลอร์  คือ
ตอบ    ที่ใช้ตัวแปลภาษาที่เรียกว่า แอสเซมบลี

6.ตัวแปลภาษาระดับสูงทำหน้าที่
ตอบ   แปลภาษาระดับสูง ให้เป็นภาษาเครื่อง

7. ตัวแปลภาษาระดับสูงแบ่งเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง
ตอบ     2 ประเภท  2.1คอมไพเลอร์ 2.2อินเตอร์พริตเตอร์

8. คอมไพเลอร์ กับ อินเตอร์พลิตเตอร์ เหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ตอบ    แตกต่างกัน เพราะ คอมไพเลอร์  เป็นลักษณะการตรวจสอบคำสั่งที่รับเข้ามาว่าการเขียนคำสั่ง นั้นถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ของภาษาหรือไม่ถ้ายังไม่ถูกต้องก็จะแจ้งข้อผิดพลาด แต่
อินเตอร์พลิตเตอร์ ทำการแปลชุดคำสั่งที่นำเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ทีละคำสั่งและทำการประมวลผลทันที โดยไม่ต้องทำให้เป็น Object Program ถ้าหากพบข้อผิดพลาดโปรแกรมจะหยุดทำงานทันที

วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2554

System software

1.ซอฟต์แวร์ระบบ(System  software)แบ่งเป็น3ประเภท คือ
  • ระบบปฏิบัติการ
  • โปรแกรมแปลภาษาคอมพิวเตอร์
  • โปรแกรมอรรถประโยชน์
2.ระบบปฏิบัติการ  คือ
 เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับควบคุมและประสานงานระหว่างอุปกรณ์ภายในคอมพิวเตอร์ทั้งหมดเช่น ซีพียู หน่วยความจำ ไปจนถึงหน่วยนำเข้าและส่งออก บ้างครั้งนิยมเรียกรวมๆว่า แพลตฟอร์ม(platform)

3.ระบบปฏิบัติการมีความสำคัญอย่างไร

คอมพิวเตอร์จะทำงานได้จำเป็นต้องมีระบบปฏิบัติการติดตั้งอยู่ในเครื่องเสียก่อน ซึ่งขึ้นอยู่กับบริษัทผู้ผลิตเครื่องนั้นๆว่าจะเลือกใช้เครื่องระบบปฏิบัติการอะไรในการทำงาน

4.ระบบปฏิบัติการมีหน้าที่อย่างไร
  1. การจองและการกำหนดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์
  2. การจัดตารางงาน
  3. การติดต่มผลของระบบ
  4. การทำงานหลายโปรแกรมพร้อมกัน
  5. การจัดแบ่งเวลา
  6. การประมวลผลหลายชุดพร้อมกัน
5.ตัวอย่างระบบปฏิบัติการที่สำคัญที่ควรรู้จัก 6 ชนิด
  1. ระบบปฏิบัติการไมโครซอฟต์วินโดวส์(Microsoft Windows)
  2. ระบบปฏิบัติการแมคอินทอช(macintosh Operating System)
  3. ระบบปฏิบัติการลินุกซ์(Linux)
  4. ระบบปฏิบัติการวินโดวส์เซิร์ฟเวอร์(Windows Server)
  5. ระบบปฏิบัติการปาล์ม(palm OS)
  6. ระบบปฏิบัติการซิมเบียน(Symbian OS)
6.แอนดรอยด์(Android) คือ
สำหรับอุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ ที่มีหน่วยประมวลผลเป็นส่วนประกอบ อาทิเช่น คอมพิวเตอร์, โทรศัพท์ (Telephone), โทรศัพท์เคลื่อนที่ (Cell phone), อุปกรณ์เล่นอินเตอร์เน็ตขนาดพกพา (MID) เป็นต้น

7.ios เป็น
"ระบบปฏิบัติการ" ของ iPhone, iPod touch, iPad และ Apple TV

วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ระบบปฏิบัติการ

ความหมายระบบปฏิบัติการ 
    
 เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับควบคุมและประสานงานระหว่างอุปกรณ์ภายในคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ตั้งแต่CPU หน่วยความจำ จนไปถึงหน่วยนำเข้า หน่วยส่งออก คอมพิวเตอร์จะทำงานได้จำเป็นต้องมีระบบปฏิบัการติดตั้งอยู่เสียก่อน


หน้าที่ของระบบปฏิบัติการ

1.การจองและการกำหนดการใช้ทรัพยากรของคอมพิวเตอร์
2.การจัดตารงงาน
3.การติดตามผลของระบบ
4.การทำงานหลายโปรแกรม
5.การจัดแบ่งเวลา
6.การประมวลผลหลายชุดพร้อมกัน

ตัวอย่างระบบปฏิบัติการที่สำคัญควรรู้

1.ระบบปฏิบัติการไมโครซอฟต์วินโดส์
2.ระบบปฏิบัติการแมคอินทอช
3.ระบบปฏิบัติการลินุกซ์
4.ระบบปฏิบัติการวินโดส์
5.ระบบปฏิบัติการปาล์ม
6.ระบบปฏิบัติการวิมเบียน

คำถามระบบปฏิบัติการ

1.ระบบปฏิบัติการหมายถึง
ก.เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับควบคุมและประสานงานระหว่างอุปกรณ์ภายในคอมพิวเตอร์ทั้งหมด
ข.การจองและการกำหนดการใช้ทรัพยากรของคอมพิวเตอร์

2.ระบบปฏิบัติในข้อใดใช้ในการเรียน การทำงานมากที่สุด
ก.ระบบปฏิบัติการวินโดส์
ข.ระบบปฏิบัติการลินุกซ์

เฉลย

1.ก.เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับควบคุมและประสานงานระหว่างอุปกรณ์ภายในคอมพิวเตอร์ทั้งหมด
2. ก.ระบบปฏิบัติการวินโดส์

ซอฟต์แวร์ระบบ

ความหมายซอฟต์แวร์ระบบ

เป็นโปรแกรมควบคุมและประสานงานการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆโดยซอฟต์แวร์ระบบจะเป็นตัวสั่งหน่วยควบคุมภายในหน่วยประมวลผลกลาง


ประเภทซอฟต์แวร์ระบบ
  • ระบบปฏิบัติการ
  • โปรแกรมแปลภาษา
  • โปรแกรมอรรถประโยชน์
คำถามท้ายเรื่อง

1.ระบบซอฟต์แวร์ระบบหมายถึง
ก. ระบบสั่งการคอมพิวเตอร์
ข. โปรแกรมควบคุมและประสานงานการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์


2.ประเภทซอฟต์แวร์ระบบมีกี่ระบบและอะไรบ้าง
ก. 2 ระบบ ได้แก่ ระบบปฏิบัติการ ระบบแปลภาษา
ข. 3 ระบบ ได้แก่ ระบบปฏิบัติการ โปรแกรมแปลภาษา โปรแกรมอรรถประโยชน์


เฉลย
1.ข. โปรแกรมควบคุมและประสานงานการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์
2.ข. 3 ระบบ ได้แก่ ระบบปฏิบัติการ โปรแกรมแปลภาษา โปรแกรมอรรถประโยชน์

วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ความหมาย ประเภท และคำถามของซอฟต์แวร์

ซอฟต์แวร์ (software)
 หมายถึงชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ใช้สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ซอฟต์แวร์จึงหมายถึงลำดับขั้นตอนการทำงานที่เขียนขึ้นด้วยคำสั่งของคอมพิวเตอร์ คำสั่งเหล่านี้เรียงกันเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จากที่ทราบมาแล้วว่าคอมพิวเตอร์ทำงานตามคำสั่ง การทำงานพื้นฐานเป็นเพียงการกระทำกับข้อมูลที่เป็นตัวเลขฐานสอง ซึ่งใช้แทนข้อมูลที่เป็นตัวเลข ตัวอักษร รูปภาพ หรือแม้แต่เป็นเสียงพูดก็ได้
          โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้สั่งงานคอมพิวเตอร์จึงเป็นซอฟต์แวร์ เพราะเป็นลำดับขั้นตอนการทำงานของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งทำงานแตกต่างกันได้มากมายด้วยซอฟต์แวร์ที่แตกต่างกัน ซอฟต์แวร์จึงหมายรวมถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทุกประเภทที่ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้
          การที่เราเห็นคอมพิวเตอร์ทำงานให้กับเราได้มากมาย เพราะว่ามีผู้พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาให้เราสั่งงานคอมพิวเตอร์ ร้านค้าอาจใช้คอมพิวเตอร์ทำบัญชีที่ยุ่งยากซับซ้อน บริษัทขายตั๋วใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในระบบการจองตั๋ว คอมพิวเตอร์ช่วยในเรื่องกิจการงานธนาคารที่มีข้อมูลต่าง ๆ มากมาย คอมพิวเตอร์ช่วยงานพิมพ์เอกสารให้สวยงาม เป็นต้น การที่คอมพิวเตอร์ดำเนินการให้ประโยชน์ได้มากมายมหาศาลจะอยู่ที่ซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์จึงเป็นส่วนสำคัญของระบบคอมพิวเตอร์ หากขาดซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ก็ไม่สามารถทำงานได้ ซอฟต์แวร์จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และมีความสำคัญมาก และเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่ทำให้ระบบสารสนเทศเป็นไปได้ตามที่ต้องการ
ที่มา:http://www.ketkwanchai.info/ebook3/2.htm

ประเภทของซอฟต์แวร์

ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีผู้พัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานกับคอมพิวเตอร์มีมากมาย ซอฟต์แวร์เหล่านี้อาจได้รับการพัฒนาโดยผู้ใช้งานเอง หรือผู้พัฒนาระบบ หรือผู้ผลิตจำหน่าย หากแบ่งแยกชนิดของซอฟต์แวร์ตามสภาพการทำงาน พอแบ่งแยกซอฟต์แวร์ได้เป็นสองประเภท คือ ซอฟต์แวร์ระบบ (system software) และซอฟต์แวร์ประยุกต์ (application software)
  • ซอฟต์แวร์ระบบ คือซอฟต์แวร์ที่บริษัทผู้ผลิตสร้างขึ้นมาเพื่อใช้จัดการกับระบบ หน้าที่การทำงานของซอฟต์แวร์ระบบคือดำเนินงานพื้นฐานต่าง ๆ ของระบบคอมพิวเตอร์ เช่น รับข้อมูลจากแผงแป้นอักขระแล้วแปลความหมายให้คอมพิวเตอร์เข้าใจ นำข้อมูลไปแสดงผลบนจอภาพหรือนำออกไปยังเครื่องพิมพ์ จัดการข้อมูลในระบบแฟ้มข้อมูลบนหน่วยความจำรอง
  • เมื่อเราเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ทันทีที่มีการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์จะทำงานตามโปรแกรมทันที โปรแกรมแรกที่สั่งคอมพิวเตอร์ทำงานนี้เป็นซอฟต์แวร์ระบบ ซอฟต์แวร์ระบบอาจเก็บไว้ในรอม หรือในแผ่นจานแม่เหล็ก หากไม่มีซอฟต์แวร์ระบบ คอมพิวเตอร์จะทำงานไม่ได้
    ซอฟต์แวร์ระบบยังใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาซอฟต์แวร์อื่น ๆ และยังรวมไปถึงซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการแปลภาษาต่าง ๆ
  • ซอฟต์แวร์ประยุกต์ เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้กับงานด้านต่าง ๆ ตามความต้องการของผู้ใช้ ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ปัจจุบันมีผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ใช้งานทางด้านต่าง ๆ ออกจำหน่ายมาก การประยุกต์งานคอมพิวเตอร์จึงกว้างขวางและแพร่หลาย เราอาจแบ่งซอฟต์แวร์ประยุกต์ออกเป็นสองกลุ่มคือ ซอฟต์แวร์สำเร็จ และซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นใช้งานเฉพาะ ซอฟต์แวร์สำเร็จในปัจจุบันมีมากมาย เช่น ซอฟต์แวร์ประมวลคำ ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน ฯลฯ
ที่มา:http://www.pbps.ac.th/e_learning/combasic/soft_type.html

คำถาม
1.ซอฟต์แวร์ หมายถึง
ก.อุปกร์ของคอมพิวเตอร์
ข.โปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่ถูกเขียนขึ้น

2.ประเภทของซอฟต์แวร์มีอะไรบ้าง
ก.ซอฟต์แวร์ระบบประยุกต์
ข.ซอฟต์แวร์ระบบ และ ซอฟต์แวร์ประยุกต์

เฉลย
ข้อ1. ข.โปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่ถูกเขียนขึ้น
ข้อ2. ข.ซอฟต์แวร์ระบบ และ ซอฟต์แวร์ประยุกต์

วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

คติประจำใจ

ไม่มีใครมาลิขิตชีวิตเราได้นอกจากตัวเราเอง
 If you can dream it, you can do it = ถ้าคุณฝันได้ คุณก็ทำได้ 
ไม่มีอะไรยากเกินไป หากเราคิดว่าเราทำได้
 อย่าเพิ่งท้อแท้ในสิ่งที่ยังไม่พยายาม และอย่าเพิ่งหมดหวังในสิ่งที่ยังไม่เริ่มต้น
 ไม่มีคำว่าสาย ถ้าคิดจะเริ่มต้น 
อย่าพูดว่าทำไม่ได้ ถ้ายังไม่ได้ทำ 
อย่ากลัวล้มทั้งๆที่ยังไม่เริ่มต้น
 การหนีปัญหาเป็นสิ่งที่ดี แต่การเผชิญหน้ากับมันย่อมดีกว่า 
อย่ากลัวที่จะก้าวไปช้าๆ จงกลัวที่จะหยุดอยู่กับที่ 
อุปสรรคคือความแข็งแกร่ง
ปัญหาคือการฝึกฝน
ความผิดพลาดคือการเรียน
 เวลาไม่เคยหวนกลับ เราไม่สามารถกลับไปแก้ไขวันวานได้ 
ทำวันนี้ให้ดีที่สุด (คติคลาสสิกที่สุดและ ^^)
เก็บความผิดพลาดในอดีตมาเป็นบทเรียนสำหรับอนาคต
อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไร้ประโยชน์ แล้วก็อย่าบอกว่าเวลาไม่เคยพอ 
ทำวันนี้ให้มีความสุขก็พอ 
อดีตไม่สำคัญ..ปัจจุบันทำให้ดีที่สุด 

สุดท้ายยย  '' Nobody Perfect '' ไม่มีใครในโลกนี้สมบูรณ์แบบ 

เพื่อน

เพื่อนคือ...ทุกสิ่ง ทุกอย่าง ยิ่งกว่าแฟนก้อว่าได้ ไม่ตามใจ มันก็ไม่ด่า แต่ถ้ามันไม่ตามใจ เราก็ด่าได้ โดยที่มันและเราไม่โกรธกัน

เพื่อนเมื่อโกรธกันสามารถกลับมาคืนดีกันได้ โดยไม่ต้องเก็บความสงสัยว่า เรื่องที่โกรธกันคืออะไร ผ่านแล้วก็ผ่านไป

เพื่อนคือที่พึ่ง ยามเป็นทุกข์

เพื่อนคือที่ปรึกษา ตั้งแต่เรียน ทำงาน จนจะแต่งงานก็ยังต้องปรึกษามัน

เพื่อนคอยสับรางเวลารถไฟจะชน

เพื่อนคอยโกหกพ่อแม่เวลาไปเที่ยวแต่บอกว่าไปทำงาน

เพื่อนคอยบอกแฟนว่าเรากำลังอยู่กับมัน ทั้งที่จริงเราไม่ได้อยู่กับมันหรอก

และเพื่อนก็คือ คนจ่ายค่าข้าวเวลาเราไม่มีเงิน

"เพื่อน" คือ ทุกอย่าง คือสิ่งที่มีค่า

"some time happy… some time sad… but all time friend "

บทส่งท้าย ถ้าเราสนุก ไปเที่ยวโดยไม่มีเพื่อน แล้วเล่า ให้มันฟัง มันก็ไม่ว่าอะไร....แล้วถ้าเราเที่ยวแล้วเกิดปัญหา เราตามตัวมันมา มันเคยพูดไหมว่า "ไม่สนเที่ยวแล้วไม่ชวน แก้ไขเองแล้วกัน"